top of page

การใช้ประโยชน์ของ Artificial Intelligence (AI) ในงานบัญชี 

จดหมายข่าวสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฉบับที่ 68 เดือนสิงหาคม 2561

FAPNewsletter68P12.jpg
FAPNewsletter68P13.jpg

Artificial Intelligence

AI คืออะไร?

 

AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีที่จะทำให้คอมพิวเตอร์คิดและกระทำได้ตามระบบหรือขั้นตอนที่มนุษย์กำหนดไว้ให้


AI เหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าท่านเป็นสาวก Iphone คงรู้จัก Siri และกลุ่ม Android คงรู้จัก Google Assistant เป็นอย่างดี ที่สามารถพูดคุย รับคำสั่ง ตอบโต้กับเราแบบช่วยให้คลายเหงาได้เลยทีเดียว หรือในวงการอุตสาหกรรมเราคงจะเคยเห็นคลิปที่แพร่หลายในโลก Social ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ใช้ AI ผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นจนถึงบรรจุหีบห่อขนขึ้นรถโดยอาจจะมีคนคุมระบบอยู่ไม่กี่คน


ในวงการบัญชีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมี AI มาเกี่ยวข้องกับการทำงานความสามารถของ AI คือสามารถช่วยจัดการ ตรวจสอบหรือ วิเคราะห์ข้อมูลที่มีปริมาณมาก ๆ ให้เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว แม้จะเป็นเรื่องใหม่และในบ้านเรายังเห็นภาพกันไม่ชัดนักว่า AI จะมีบทบาทอย่างไร แต่เมื่อได้ยินว่าในอนาคตอันใกล้ 80% ของงานด้านบัญชีจะถูก AI เข้ามาทำแทนมนุษย์หัวสี่เหลี่ยมอย่างพวกเราก็อดที่จะวิตกกังวลไม่ได้ว่าแล้วต่อไปเราจะทำมาหากินยังไง ก่อนจะถึงคำตอบนั้นมาดูกันก่อนว่า AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างไร?

งานด้านสอบบัญชี

ว่ากันว่างานใดที่มีกฎเกณฑ์ ระบบหรือมาตรฐานชัดเจน งานนั้น เราสามารถพัฒนา AI ให้ทำแทนได้ ดังนั้นงานเกี่ยวกับสอบบัญชี บรรดาสำนัก งานสอบบัญชีระดับ Big 4 สามารถใช้ AI ช่วยตรวจสอบข้อมูลทางบัญชีของกิจการขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลมหาศาล (Big Data) ว่าเป็นไปตามมาตรฐานบัญชีในฉบับที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นอกจากนั้น AI ยังช่วยอ่านสัญญาทางการค้าที่มีอยู่มากมายในกิจการขนาดใหญ่และนำมาวิเคราะห์
สรุปผลให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า EY กำลังมีแผนที่จะใช้ Dronesในการช่วยตรวจนับสินค้าคงเหลือ ณ สิ้นรอบบัญชี อีกด้วย

 

งานด้านตรวจสอบภายใน

งานตรวจสอบภายในได้มีการใช้ความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ เจาะลึกเปรียบเทียบข้อมูลของกิจการ จากอดีตสู่ปัจจุบัน เปรียบเทียบกับกฎเกณฑ์หรือระเบียบที่วางไว้ เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในส่วนใดที่ทีมงานตรวจสอบภายในต้องลงไปตรวจดูเป็นพิเศษซึ่งก็สามารถช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธภาพในการทำงานได้มากขึ้น

 

งานจัดทำบัญชี

ทิศทางการพัฒนาของ Cloud Based Accounting Software ในระดับสากลกำลังมุ่งไปในทางที่ทำอย่างไร จะนำ AI มาช่วยในงานบัญชีให้ได้มากที่สุด แต่เดิมนั้นเรารู้แต่ว่าคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ในการช่วยเราเก็บข้อมูลไว้ แต่เทคโนโลยีของ AI ทำงานได้วิเศษกว่านั้นคือสามารถศึกษา สังเกต พฤติกรรมการบันทึกข้อมูลและลงรหัสบัญชีของเราและจดจำจนสามารถบันทึกและลงรหัสบัญชีแทนเราโดยอัตโนมัติเมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆที่คล้าย ๆ กันเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกบัญชีมีความถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น

สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและพยากรณ์แนวโน้มของธุรกิจ ทุกงานทางบัญชีที่เขียนคู่มือการทำงานแบบเป็นขั้นเป็นตอนได้ เราก็สามารถเขียนเป็นคำสั่งให้ AI ทำงานแทนนักบัญชีในหน้าที่นั้นได้ทั้งหมด
ที่ก้าวหน้ากว่านั้นคือมีการพัฒนาไปถึงขนาดสามารถเชื่อมต่อกับ Alexa คือ AI ที่อยู่ใน Amazon Echo เครื่องที่มีหน้าตาเป็นทรงกระบอกยาว ๆ เหมือนลำโพงในการรายงานผลประกอบการหรือตอบคำถามต่าง ๆ จากข้อมูลในงบการเงินแทนนักบัญชีตัวเป็น ๆ ได้แล้วด้วย


งานตรวจสอบภาษีของกรมสรรพากร
ขณะที่ภาคเอกชนโดยเฉพาะ SMEs ยังงง ๆ อยู่กับคำว่า AI แต่กรมสรรพากรโดยท่านอธิบดีคนใหม่ป้ายแดง ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนดังนี้
“นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารจัดเก็บภาษีว่า ต่อจากนี้ไปจะพัฒนาให้เป็นสรรพากรดิจิทัล ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะระบบการจัดเก็บภาษี จะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ ขยายฐานภาษีมากขึ้น ด้วยการดึงประชาชนระบบเข้าสู่ระบบภาษีให้มากขึ้นเพื่อยกระดับการจัดเก็บภาษีของไทยให้ดีขึ้น
โดยในปี 2563 จะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการวิเคราะห์การจัดเก็บภาษีจากข้อมูล Big Data ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่น
มาใช้ ซึ่งจะมีข้อมูลของเอกชน และสำนักงานบัญชีเข้ามาร่วมด้วย โดยจะมีฐานข้อมูลดังกล่าวชัดเจนภายใน 1 ปี ระบบเหล่านี้เมื่อนำมาใช้จริงจะสามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่หลบเลี่ยงภาษีทุกรูปแบบได้” (Cr.News.ch3)

 

นักบัญชีควรตั้งรับกับ AI อย่างไร?
สภาวิชาชีพบัญชีต้องการให้นักบัญชีตระหนักไม่ใช่ตระหนก เมื่อทราบแล้วว่าเจ้า AI จะมาช่วยทำงานแทนนักบัญชีในด้านใดเราก็ควรจะยินดีว่าต่อไปงานที่มีปริมาณมาก ๆ และต้องทำซ้ำ ๆ กันอยู่ประจำแบบที่เราเคยแอบเบื่ออยู่นั้น จะมีเจ้า AI มาช่วยทำหน้าที่ของเราคือวางแผนให้เจ้า AI ทำงานและหยิบเอาผลงานที่เจ้า AI ทำไว้ให้มาใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ

เราจะมีเวลามากขึ้นที่จะไปดูแลงานที่สำคัญ ๆ เช่น ด้านการวางแผนภาษี ด้านการวิเคราะห์งบ เราจะต้องปรับตัวที่จะหาความรู้เกี่ยวกับ Application ทางบัญชี ที่ใช้ AI ในการทำงาน อย่าลืมว่าก่อนที่ AI จะทำงานแทนมนุษย์ได้ จะต้องมีผู้ชำนาญที่เข้าใจการทำงานของ AI และเขียนระบบงานให้กับฝ่าย IT เขียนคำสั่งให้ AI ทำงานนั้น ๆ ได้ ซึ่งงานลักษณะนี้จะเป็นที่ต้องการของตลาดและอาจจะสร้างรายได้ที่ดีกว่าการรับทำบัญชีเลยทีเดียว การที่เราต้องปรับบทบาทจากผู้ทำเป็นผู้นำข้อมูลทางการเงินมานำเสนอแก่ผู้บริหาร เราจึงควรที่จะเรียนรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเทคนิคการนำเสนองาน เป็นต้น

โดย..นางสาวศิริรัฐ โชติเวชการ กรรมการในคณะกรรมการวิชาชีพบัญชี

ด้านการวางระบบบัญชี

 

Newsletter • Issue 68 Page 12-13

bottom of page